Skip to Content

การใช้ Odoo สำหรับระบบบัญชีในไทย

ตั้งค่าระบบบัญชี Odoo ให้สอดคล้องกับมาตรฐานไทย จัดการภาษีอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจ

การใช้ Odoo สำหรับระบบบัญชีในประเทศไทย

Odoo เป็นซอฟต์แวร์ ERP แบบโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการทุกด้านขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในโมดูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ โมดูลบัญชี (Accounting) ซึ่งสามารถใช้จัดการการเงิน การออกใบแจ้งหนี้ และการคำนวณภาษีได้อย่างครอบคลุม

อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Odoo สำหรับระบบบัญชีในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับแต่งบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดของกรมสรรพากร

1. ฟีเจอร์หลักของ Odoo Accounting

1.1 การออกใบแจ้งหนี้ (Invoicing & Billing)

Odoo สามารถช่วยสร้างและจัดการเอกสารทางบัญชี เช่น

  • ใบแจ้งหนี้ (Invoice)
  • ใบเสร็จรับเงิน (Receipt)
  • ใบเสนอราคา (Quotation)
  • ใบลดหนี้ (Credit Note)

สามารถตั้งค่าให้ออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติสำหรับบริการที่เรียกเก็บเงินเป็นรายเดือนหรือรายปีได้

1.2 การจัดการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT)

  • VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
    • Odoo รองรับการกำหนดภาษีขายและภาษีซื้อ
    • สามารถแสดง VAT บนใบแจ้งหนี้
    • มีรายงานภาษีที่สามารถนำไปยื่นกับกรมสรรพากรได้
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax - WHT)
    • สามารถตั้งค่าหัก ณ ที่จ่าย เช่น 3%, 5%
    • สามารถออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายให้คู่ค้าได้
  • การออกรายงานภาษีการขายและการซื้อ

  • รายงานภาษีหัก ณ ที่จ่าย
    • ข้อมูลรายงาน PND จะแสดงจำนวนเงินโดยสรุปของ ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย ที่เกี่ยวข้องจากใบเรียกเก็บเงินของผู้ขายภายใต้รายงานภาษี PND53 (TH) และ PND3 (TH)

1.3 การบันทึกบัญชีอัตโนมัติ (Automated Journal Entries)

  • เมื่อมีการออกใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จ ระบบจะบันทึกบัญชีให้โดยอัตโนมัติ
  • สามารถกำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) ตามมาตรฐานบัญชีไทย

1.4 การกระทบยอดธนาคาร (Bank Reconciliation)

  • Odoo รองรับการนำเข้าข้อมูลธนาคาร (Bank Statement)
  • สามารถจับคู่ธุรกรรมทางการเงินกับรายการในบัญชีได้

1.5 การจัดการเงินเดือน (Payroll) และสวัสดิการพนักงาน

  • สามารถคำนวณเงินเดือน ประกันสังคม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • รองรับการส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือนไปยังธนาคาร

2. การปรับแต่ง Odoo ให้รองรับมาตรฐานบัญชีไทย

แม้ว่า Odoo จะเป็นระบบบัญชีที่มีความสามารถสูง แต่การใช้งานในประเทศไทยอาจต้องมีการปรับแต่งเพื่อให้ตรงกับมาตรฐานของกรมสรรพากร

2.1 การตั้งค่าผังบัญชี (Chart of Accounts)

Odoo มีผังบัญชีมาตรฐาน แต่ควรปรับให้ตรงกับ มาตรฐานบัญชีของประเทศไทย (TFRS - Thai Financial Reporting Standards) เช่น

  • บัญชีรายได้
  • บัญชีค่าใช้จ่าย
  • บัญชีสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ

2.2 การออกใบกำกับภาษี (Tax Invoice) ตามข้อกำหนดกรมสรรพากร

ในประเทศไทย ใบกำกับภาษีต้องมีรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่น

  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขายและผู้ซื้อ
  • วันที่ออกใบกำกับภาษี
  • รายการสินค้าและบริการ

Odoo สามารถปรับแต่งรูปแบบเอกสารให้ออกมาตามมาตรฐานนี้ได้

2.3 การรองรับ e-Tax Invoice และ e-Receipt

ปัจจุบัน กรมสรรพากรส่งเสริมการใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งช่วยลดภาระเอกสารทางบัญชี

  • Odoo สามารถตั้งค่าให้ส่งใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ (XML หรือ PDF)
  • สามารถเชื่อมต่อกับระบบ e-Tax Invoice ของกรมสรรพากรได้

2.4 การบันทึกภาษีหัก ณ ที่จ่าย

Odoo สามารถตั้งค่าการหัก ณ ที่จ่ายได้ โดยสามารถกำหนดประเภทของภาษี เช่น

  • 3% สำหรับค่าบริการ
  • 5% สำหรับค่าเช่า

สามารถสร้างรายงานภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพื่อนำไปยื่นต่อกรมสรรพากรได้

3. การเชื่อมต่อ Odoo กับระบบภายนอก

3.1 การเชื่อมต่อกับระบบธนาคาร

Odoo สามารถเชื่อมต่อกับระบบธนาคารในไทยผ่าน API หรือไฟล์ CSV เช่น

  • การนำเข้ารายการเดินบัญชีธนาคาร
  • การทำธุรกรรมการจ่ายเงินผ่านระบบธนาคาร

3.2 การเชื่อมต่อกับระบบกรมสรรพากร

Odoo สามารถส่งออกข้อมูลภาษีให้อยู่ในรูปแบบที่รองรับกับระบบของกรมสรรพากร เช่น

  • รายงานภาษีซื้อ-ขาย (ภพ.30)
  • รายงานภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภงด.3, ภงด.53)

3.3 การเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์บัญชีภายนอก

หากบริษัทใช้ซอฟต์แวร์บัญชีอื่น เช่น SAP หรือ Express สามารถใช้ API หรือ Export ข้อมูลเพื่อทำงานร่วมกันได้

4. สรุป

Odoo เป็นระบบบัญชีที่มีความสามารถครบถ้วนและสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับกฎหมายของประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าให้ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชีไทยและกฎหมายภาษีอาจต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้าน Odoo และระบบบัญชีไทย

Odoo เหมาะกับใคร?

✅ ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ต้องการระบบบัญชีครบวงจร

✅ บริษัทที่ต้องการลดภาระงานบัญชีด้วยระบบอัตโนมัติ

✅ ธุรกิจที่ต้องการระบบ ERP ที่สามารถเชื่อมโยงทุกแผนกเข้าด้วยกัน

หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้ Odoo สำหรับบัญชีในไทย สามารถติดต่อบริษัทไอโมทีฟซึ่งเป็น Odoo Partner เพื่อช่วยปรับแต่งระบบให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณ!

หรือสนใจทดลองใช้ Odoo ฟรี

ทดลองใช้ฟรี


ใน Article
# Odoo
การใช้ Odoo สำหรับระบบบัญชีในไทย
Santiphap | IMOTIF 1 มีนาคม ค.ศ. 2025
แชร์โพสต์นี้
แท็ก
บล็อกของเรา
เก็บถาวร
What is Odoo?